No One Will Save You (2023)

No One Will Save You (2023) ซับไทย

10 votes, average 6.5 out of 10

เรื่องย่อ : No One Will Save You (2023)

ดูหนังใหม่ เรื่อง : No One Will Save You (2023) | ดูหนังออนไลน์ พากย์ไทย + ซับไทย 1080P เต็มเรื่อง ‘No One Will Save You’ เป็นหนังไซไฟระทึกขวัญเรื่องล่าสุดที่ออกฉายทาง Disney+ Hotstar ทั้งนี้ตัวหนังมีความน่าสนใจหลายอย่างที่ทำให้เราไม่อาจมองข้ามเรื่องนี้ไปได้

ประการแรกนี่เป็นผลงานเรื่องที่ 2 ของผู้กำกับ ไบรอัน ดัฟฟิลด์ (Brian Duffield) แม้ในมุมงานกำกับจะยังขาดผลงานให้แฟนหนังชาวไทยจดจำชื่อ ทว่าเขาก็เป็นคนมีเรื่องเล่าที่น่าสนใจ ทั้งในหนังไซไฟก้าวพ้นวัยเรื่องแรกของเขา ‘Spontaneous’ (2020) ที่ว่าด้วยเด็กมัธยมโรงเรียนหนึ่งเกิดร่างกายระเบิดขึ้นเองอย่างไร้สาเหตุ และทำให้พวกเขาทุกคนต้องถูกกักตัวหาวิธีรักษาและมีพื้นที่บาง ๆ ให้สองตัวละครหลักได้ผูกสัมพันธ์กัน ซึ่งก็เป็นการเปรียบเปรยความว้าวุ่นและปัญหาชีวิตของพวกวัยรุ่นที่กำลังจะกลายเป็นผู้ใหญ่ได้อย่างน่าสนใจ

และในบทบาทมือเขียนบทนั้นยิ่งน่าสนใจ เขาคือผู้เขียนบท ‘Love and Monsters’ (2020) ที่ผสานแฟนตาซีและโรแมนติกได้ลงตัวกลายเป็นหนังม้ามืดที่ครองใจใครไปหลายคน ซึ่งพอดัฟฟิลด์ที่ห่างหายไปนานกว่า 3 ปีกลับมาพร้อมหนังไซไฟระทึกขวัญมันจึงทำให้ดูน่าสนใจไม่น้อยว่าเขาจะเล่าอะไร

ตัวหนังจะพาเราไปมองเรื่องราวผ่านสายตาของเด็กสาวชื่อ บรินน์ ที่อยู่ในบ้านเพียงลำพัง ก่อนที่เราจะเริ่มผิดสังเกตว่าเธอไม่มีปฏิสัมพันธ์กับคนในชุมชนเลย หรือมองอีกมุมคนในชุมชนของเธอก็ไม่ยินดีที่จะทักทายกับเธอเช่นกัน นอกจากความประหลาดของตัวบรินน์ที่ทำได้เพียงนั่งคุยกับหลุมฝังศพแม่ตัวเองและเขียนจดหมายถึงเพื่อนในวัยเด็กที่ชื่อ ม้อด ซึ่งไม่เคยปรากฏให้เราทราบว่าเธอเป็นใครเลย

No One Will Save You

ตัวหนังก็เริ่มใส่สัญญาณถึงความผิดปกตินอกตัวบรินน์มาเพิ่ม เมื่อเธอสังเกตเห็นสนามหญ้าหน้าบ้านเธอมีหญ้าตายเป็นรูปวงกลม และเมื่อภาพมุมสูงฉายไปรอบ ๆ เราก็จะพบว่ามีรอยวงกลมแปลก ๆ นี้อยู่ในหลายบ้านทั่วเมืองเลย

นี่คือความน่าสนใจประการต่อมา หากสังเกตที่เราได้ดูมาถึงจุดเกริ่นเรื่องราวนี้ หนังเล่าด้วยภาษาภาพแทบทั้งหมด นั่นคือดัฟฟิลด์ตั้งใจเล่าหนังเรื่องนี้โดยแทบไม่มีบทสนทนาเกิดขึ้นเลย ทั้งเป็นความท้าทายในฐานะนักเล่าเรื่อง และยังเป็นเจตนาที่จะสะท้อนความไร้ปฏิสัมพันธ์กับผู้คนของบรินน์อย่างสิ้นเชิง ตอกย้ำไปที่ชื่อเรื่องอีกว่า ‘ไม่มีใครช่วยคุณได้หรอก’ นั้นไม่เกินเลยเลยสำหรับบรินน์

หนังทำให้เรานึกถึงหนังมนุษย์ต่างดาวที่ค่อย ๆ ใส่คำใบ้และบรรยากาศชวนเสียวสันหลังอย่าง ‘Signs’ (2002) ของ เอ็ม. ไนท์ ชยามาลาน (M. Night Shyamalan) ก่อนจะจู่โจมด้วยฉากการเล่นซ่อนหาระหว่างเด็กสาวกับสิ่งมีชีวิตที่ยากคาดเดาด้วยทักษะการตัดต่อที่มีชั้นเชิง ไม่โจ่งแจ้ง และค่อย ๆ ให้เราได้เห็นร่างกายทีละส่วนของบางอย่าง เพื่อเล่นกับจินตนาการของผู้ชมได้อย่างน่าสนใจ และกดดันให้เราลุ้นไปกับตัวละครจนอยากจะกลั้นหายใจช่วยไม่ให้มนุษย์ต่างดาวนั้นรู้ที่ซ่อนของบรินน์ไปด้วยเลย ตรงนี้ทำให้นึกถึงงานอย่าง ‘A Quiet Place’ (2018) ในบางแง่มุมด้วยเช่นกัน

และโจทย์ของการที่ตัวละครไม่พูด หรือพูดอีกอย่างคือเปล่าประโยชน์ที่จะร้องขอความช่วยเหลือจากคนอื่น มันก็ยิ่งทำให้ปมปัญหาของบรินน์ที่เป็นปริศนาสำหรับผู้ชมยิ่งน่าสนใจ ว่าเธอเคยทำอะไรมา โดยฉากที่ทำได้ดีมากคือเมื่อเธอพยายามไปขอความช่วยเหลือจากตำรวจนั่นเอง สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้เรายิ่งอยากรู้อดีตของเธอพอ ๆ กับว่าอะไรกำลังเกิดขึ้นในเมืองนี้เช่นกัน

ซึ่งคงต้องยกความดีความชอบส่วนใหญ่ให้กับนักแสดงสาวเจ้าของรางวัลนักแสดงฮอลลีวูดรุ่นใหม่ที่น่าจับตามองของสื่อหลายสำนัก อย่าง เคตลิน ดีเวอร์ (Kaitlyn Dever) ที่รับบทบรินน์ ด้วยใบหน้าที่สะสวยและการแสดงที่สื่ออารมณ์โดยไม่ต้องใช้คำพูดที่ทำได้อย่างยอดเยี่ยม ว่ากันแล้วเธอเป็นตัวเลือกที่ลงตัวมาก ๆ ทีเดียว (ใครสนใจติดตามเธอต่อ ก็ขออนุญาตแบ่งปันไอจีกันตรงนี้เลย ที่ @kaitlyndever ซึ่งเธอก็สวยจัดว่าดีเวอร์จริง ๆ)

สิ่งที่ชอบอีกอย่างคือความจงใจเชย ดีไซน์ของมนุษย์ต่างดาวแบบยอดนิยมที่เรียกว่า Grey Alien เป็นรูปลักษณ์ที่แม้อิงจากคำให้การผู้พบเห็นที่มากที่สุด แต่มันก็ไม่ได้ดึงดูดความสนใจคอหนังได้มากแล้ว เพราะถูกใช้ซ้ำเยอะมาก เราได้เห็นผิวสีเทาไร้ขน หัวโต ตาดำโต ตัวเล็กและแขนขายาวในสื่อนับครั้งไม่ถ้วน แต่ดัฟฟิลด์กับทีมก็ทำให้มันมีรายละเอียดบางอย่างที่ทำให้รู้สึกว่าแตกต่าง เริ่มจากนิ้วเท้าที่เคลื่อนไหวคล้ายนิ้วมือ และมีพลังจิตบังคับสิ่งของได้

Posted on:
Views:1008
Tagline:No One Will Save You (2023) ซับไทย
Quality:
Year:
Language:English